วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การทำน้ำแอปเปิล

 ส่วนผสม 
 เนื้อแอปเปิลสุก 2 ถ้วยตวง 
 น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง 
 น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 
 เกลือ 1/2 ช้อนชา 
   
   


วิธีทำ
-
ล้างแอปเปิลให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
-
นำเนื้อแอปเปิลผสมน้ำ ต้มให้เดือด พอเนื้อแอปเปิลเปื่อยนำมายีให้ละเอียด
-
ผสมน้ำตาลทราย เกลือ คนให้ละลาย นำไปต้มอีกครั้งให้เดือด ยกลงพักให้เย็น
-
วิธีเสิร์ฟ : แช่ให้เย็นในตู้เย็น หรือลอยด้วยน้ำแข็ง 2 - 3 ก้อน


หมายเหตุ :สรรพคุณ ; แก้กระหายน้ำ บำรุงกำลัง ละลายเสมหะ ช่วยระบาย
 
  แหล่งข้อมูล : อ. อมราภรณ์ วงษ์ฟัก - www.kow-krua.com

การทำกระทอนลอยแก้ว


ส่วนผสม 
 กระท้อนปุยฝ้าย 3 ลูก
(เลือกที่แก่จัด เพราะจะได้เนื้อที่หวานและปุยนุ่ม)
 
 น้ำตาลทราย 2/3 ถ้วย 
 เกลือป่น 1 ช้อนชา 
 น้ำร้อน 1 ถ้วย 
 น้ำสะอาดหรือน้ำลอยดอกมะลิ 1/2 ถ้วย 
   


วิธีทำ
-
เริ่มจากชงน้ำร้อนกับเกลือ คนจนเกลือละลายแล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง และทิ้งไว้ให้เย็น
-
ปอกเปลือกกระท้อนออกให้เกือบถึงปุย ใช้มีดแซะเนื้อระหว่างเมล็ดออกและหั่นกระท้อนออกเป็นชิ้นๆ แล้วนำลงแช่ในน้ำเกลือที่ทำรอไว้แล้ว
-
ทีนี้ก็มาทำน้ำเชื่อม โดยผสมน้ำตาลกับน้ำสะอาด (หรือน้ำลอยดอกมะลิ จะช่วยให้มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิ) เข้าด้วยกัน และยกตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลาย แล้วกรองเอาผงออก จากนั้นก็ล้างภาชนะที่ทำให้สะอาด แล้วเทน้ำเชื่อมใส่ลงไปเคี่ยวต่ออีกที จนได้น้ำเชื่อมที่ข้นกำลังดีก็เทใส่ภาชนะที่เตรียมไว้
-
ช้อนกระท้อนขึ้นจากน้ำเกลือทิ้งให้สะเด็ดน้ำ และใส่ลงในชามน้ำเชื่อม ใส่เกลือลงไปในน้ำเชื่อมเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ให้พอมีรสหวานเค็มนิดๆ ก็เป็นอันว่าใช้ได้
-
ี่พอเวลาจะกินก็แค่ใส่น้ำแข็งลงไป


หมายเหตุ :โดยตามธรรมชาติของกระท้อนในเมืองไทยนั้น จะออกลูกแค่ปีละครั้ง ในช่วงเดือนพ.ค. - ก.ย.เท่านั้น

กุ๊กเล็ก
ผู้จัดการออนไลน์ - 19 พฤษภาคม 2548
 
  แหล่งข้อมูล : www.manager.co.th

การทำนมถั่วเขียว



ถั่วเขียวเป็นแหล่งโปรตีนจากพืช ถือเป็นโปรตีนชั้นดี ที่ดีกว่าเนื้อสัตว์เพราะให้พลังงานต่ำกว่า ไม่มีโคเลสเตอรอล ไขมันต่ำ แต่มีเส้นใยอาหารสูง นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน วิตามินบี สังกะสี โปแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และเหล็ก
คนจีนยังถือว่ากินถั่วเขียวแก้ร้อนในได้ด้วยเพราะเป็นอาหารธาตุเย็น เมนูนี้จึงเหมาะกับเป็นอาหารเช้าหน้าร้อนนี้ได้ดีทีเดียว
   
 ส่วนผสม 
 ถั่วเขียวต้มสุก 1 ถ้วย  
 น้ำ 2-3 ถ้วย 
 นมสดพร่องมันเนย 1/2 ถ้วย 
 น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
   
   
   


วิธีทำ
-
ต้มถั่วเขียวให้สุกนิ่ม ตักขึ้นมาแต่ถั่วเขียว โดยไม่เอาน้ำที่ต้ม ราดด้วยนมสดพร่องมันเนย และน้ำผึ้ง
-
เสิร์ฟเป็นอาหารเช้าหรือเป็นอาหารว่างก็ได้ความอร่อยเปี่ยมคุณค่าโภชนาการ
เทคนิค 

ควรแช่ถั่วเขียวในน้ำสะอาดทิ้งไว้อย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ถั่วนุ่มขึ้น จะทำให้เคี่ยวได้สุก และนิ่มเร็วขึ้น และระหว่างต้มถั่วหมั่นคนบ่อยๆ เพื่อ ถั่วเขียวเป็นแหล่งโปรตีนจากพืช ถือเป็นโปรตีนชั้นดี ที่ดีกว่าเนื้อสัตว์เพราะให้พลังงานต่ำกว่า ไม่มีโคเลสเตอรอล ไขมันต่ำ แต่มีเส้นใยอาหารสูง นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน วิตามินบี สังกะสี โปแตสเซียม แมกนีเซียม แคลเซียม และเหล็ก คนจีนยังถือว่ากินถั่วเขียวแก้ร้อนในได้ด้วยเพราะเป็นอาหารธาตุเย็น เมนูนี้จึงเหมาะกับเป็นอาหารเช้าหน้าร้อนนี้ได้ดีทีเดียว ไม่ให้ถั่วติดก้นหม้อ นมสดที่ราดถั่วเขียวควรเป็นนมสดที่เย็นเจี๊ยบจะช่วยให้รสชาติอร่อยขึ้น

การทำฟรุตสลัด


ส่วนผสม 
 มะละกอหั่นสี่เหลี่ยม 1 ช้อนโต๊ะ  
 สับปะรดหั่นสี่เหลี่ยม 1 ช้อนโต๊ะ 
 แตงโมตักเป็นลูกๆ 3-4 ลูก 
 แก้วมังกรหั่นสี่เหลี่ยม 1 ช้อนโต๊ะ 
 ส้มฝรั่งหั่นสี่เหลี่ยม 1 ช้อนโต๊ะ หรือใช้ส้มเช้งแทนก็ได้ 
 น้ำสับปะรดคั้นสด 200 ซีซี 
 มะนาว 1 เสี้ยว 
 สะระแหน่ 2 ยอด 
   


วิธีทำ
-
เอาผลไม้ทุกอย่างแช่ลงไปในน้ำสับปะรด บีบมะนาวลงไปให้รสจัดขึ้น นำไปแช่เย็นเตรียมไว้ ถึงเวลาเสิร์ฟใช้สะระแหน่แต่งหน้า


หมายเหตุ :เด็กใช้พลังงานมากและหิวเร็ว ที่ผ่านมาเราใช้ขนมหวานให้เด็กกินเป็นอาหารว่าง เวลาผ่านไปขนมก็หวานขึ้นเรื่อยๆ น้ำเปล่าก็ถูกแทนที่โดยน้ำหวาน ทำให้เด็กของเราสมัยนี้ซนกว่าเด็กรุ่นก่อนที่ไม่ค่อยได้กินน้ำตาลมากนัก ลองเปลี่ยนขนมหวานมาเป็นผลไม้ดูซิ แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างของพฤติกรรมเด็ก บ้านเราผลไม้มีหลายชนิด พลิกแพลงเสียหน่อยก็ดูน่าสนใจแล้ว


 
  แหล่งข้อมูล : www.balavi.com

การทำส้มเช้งแช่น้ำผึ้ง

   
 ส่วนผสม 
 ส้มเช้ง 2-3 ผล 
 มะนาวปลอดสารพิษ 1 ผล 
 น้ำผึ้ง 2 ช้อนชา 
 เกลือ 1/2 ช้อนชา 
   
   


วิธีทำ
-
ฝานส้มเช้งใส่จาน ขูดเปลือกมะนาวโรยลงไป ผสมน้ำผึ้งกันมะนาว และเกลือเข้าด้วยกันเติมน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อย ราดลงไปบนจานส้ม


หมายเหตุ :การกินส้มโดยเฉพาะส้มเช้ง จะทำให้ได้วิตามินซีและฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีมากในเปลือกขาวๆ ของส้ม สารทั้งสองตัวนี้จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน
มะนาวกับน้ำผึ้งและเกลือจะช่วยกัดเสมหะได้ดี จานนี้เหมาะเป็นอาหารว่าง


 
  แหล่งข้อมูล : www.balavi.com

การทำแคนตาลูปน้ำขิง


ส่วนผสม 
 แคนตาลูป 1/2 ลูก  
 แตงโม 1 ชิ้น 
 ขิง 3-4 แว่น 
 พลับแห้ง 1 ลูก 
 มะนาว 1/2 ลูก 
 เกลือเล็กน้อย 
   
   


วิธีทำ
-
ใช้ที่ตักควักแคนตาลูปและแตงโม ออกมาเป็นลูกกลมๆ ให้ได้ลูกกลมๆ สลับสี ประมาณ 10-12 ลูก พักไว้ในตู้เย็น
-
เนื้อแคนตาลูปที่เหลือนำไปคั้นน้ำแยกกาก เอาน้ำไปต้มกับขิงจนเดือด แล้วตักขิงออก
-
หั่นลูกพลับแห้งเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมใส่ลงไปในน้ำแคนตาลูป เติมเกลือลงไปให้รสจัดขึ้น เก็บไว้ในตู้เย็น
-
เวลาจะเสิร์ฟ ตักน้ำแคนตาลูป ต้มขิงราดลงไปบนลูกกลมๆ ที่เตรียมไว้ บีบมะนาวลงไปเล็กน้อย


หมายเหตุ :จานนี้ ถ้าจะให้สวย เลือกแคนตาลูปมา 2 สีเลย ทั้งสีส้มและสีเขียว
ที่จริงแตงโม หรือแคนตาลูป จะเหมาะมากสำหรับอากาศร้อนจัดๆ เพราะกินแล้วคลายร้อนได้ ยิ่งแช่เย็นจัดๆ ด้วยแล้ว เย็นชื่นใจอย่าบอกใครเชียว การต้มน้ำขิงกับแคนตาลูป แถมใส่พลับแห้งลงไปด้วย นี่เป็นการใช้อาหารแก้ความเผ็ดร้อนของขิง กินขิงในหน้าร้อนจะได้ไม่ร้อนในเราต้องการแค่กลิ่นของขิงมาชูรสอาหารจานนี้เท่านั้น


การทำแอบเปิลสอดไส้


 
 ส่วนผสม 
 แอบเปิลเขียว 4 ลูก  
 ลูกเกด 3 ช้อนโต๊ะ 
 เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 ช้อนโต๊ะ 
 น้ำผึ้ง 3 ช้อนโต๊ะ 
 น้ำส้มคั้น 1/2 แก้ว 
 มะนาว 1 ลูก 
 เกลือนิดหน่อย 
   


วิธีทำ
-
ตัดจุกแอบเปิลเปิดเป็นฝา คว้านเอาแกนกลางออก
-
บุบเม็ดมะม่วงหิมพานต์ให้แตกออก คลุกลูกเกด น้ำผึ้ง น้ำมะนาว และเกลือเข้าด้วยกันแล้วบรรจุลงไปในลูกแอบเปิล
-
เรียงแอบเปิลลงในจาน เทน้ำส้มลงไป ใช้ฟิลม์ปิดจาน แล้วนำไปทำให้สุกโดยไมโครเวฟ


หมายเหตุ :จานนี้เวลาเสิร์ฟ ตักไปทั้งแอบเปิลและน้ำ ถ้าจะราดเหล้ารัมลงไปด้วยจะวิเศษมาก จะกินทั้งอุ่นๆ ก็อร่อยดี


 
  แหล่งข้อมูล : www.balavi.com

การทำน้ำกระเจี๊ยบใบเตย



ส่วนผสม 
 กระเจี๊ยบแห้ง 1 กำมือ  
 ใบเตยตัดมาทั้งราก 1 ต้น 
 น้ำตาลทราย 
   
   


วิธีทำ
-
เอากระเจี๊ยบและใบเตยหั่นใส่หม้อ เอาน้ำใส่ ต้มให้เดือด
-
จากนั้นเคี่ยวต่อไปนานประมาณ 10 นาที ตักเอาเนื้อออก เติมน้ำตาลทรายลงไปพอให้หวานน้อยๆ


หมายเหตุ :ถ้ากลัวอ้วนก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลลงไป ดื่มเป็นชาแทนน้ำทั้งวัน ชาชนิดนี้จะมีสีสวยและมีกลิ่นหอมของใบเตย แต่ถ้าไม่เติมน้ำตาลก็ต้องทำใจหน่อย ตรงที่กระเจี๊ยบจะออกรสเปรี้ยวนิดๆ เสมอ


 
  แหล่งข้อมูล : www.balavi.com

การทำน้ำผลไม่รวม

 ส่วนผสม 
 สับปะรด 200 กรัม 
 แครอท 1/2 หัว 
 กะหล่ำปลี 2 ใบ 
 มะนาว 


วิธีทำ
-
คั้นทุกอย่างด้วยเครื่องคั้นผลไม้แยกกาก บีบมะนาวทีหลัง


หมายเหตุ :ที่จริงน้ำผลไม้คั้นสดๆ ทุกชนิดมีผลในการบำรุงตับทั้งสิ้น แต่ต้องคั้นเดี๋ยวนั้นกินเดี๋ยวนั้น จะเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้ แต่ถ้ามีการคั้นกะหล่ำลงไปผสมด้วยก็จะยิ่งได้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อตับมากยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำผลไม้คั้นสดจะให้ประโยชน์สูงสุด อย่างที่น้ำผลไม้ที่แม่ค้าคั้นขายตามตลาด น้ำผลไม้กล่องสู้ไม่ได้ และไม่ต้องพูดถึงน้ำหวานสีเขียวสีแดงเลย จริงอยู่ตับต้องการน้ำตาลใช้ แต่ว่าตับต้องการน้ำตาลเข้าไปพร้อมๆ กับวิตามินบี ดังนั้นน้ำหวานใส่สีจะเป็นภาระต่อตับมากกว่าจะไปบำรุงตับ


 
  แหล่งข้อมูล : www.balavi.com

การทำน้ำแตงกวาปั่น


ส่วนผสม (จำนวน 2 1/2 แก้ว) 
 แตงกวาปอกเปลือกหั่นชิ้น 1 ถ้วย 
 โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1/2 ถ้วย 
 หอมใหญ่หั่นชิ้นเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ 
 น้ำแข็งบดละเอียด 1/2 ถ้วย 
   
   


วิธีทำ
-
ปั่นส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด แล้วรินใส่แก้วดื่มทันที


หมายเหตุ :แตงกวา เปี่ยมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี และเกลือแร่ต่างๆ มากมาย แตงกวา ช่วยแก้กระหายน้ำ คลายร้อน และมีคุณสมบัติ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น ช่วยให้กล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นดี หากดื่มเป็นประจำ จะทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย สุดท้ายแตงกวา ยังช่วยบำรุงเส้นผม ให้เงางามเป็นประกายอีกด้วย
 
  แหล่งข้อมูล : www.homedd.com

การน้ำข่า


  
 ส่วนผสม 
 ข่าแก่ตากแห้ง 20 กรัม (5 แว่น) 
 น้ำร้อน 200 กรัม (1ถ้วยแก้ว) 
   
   
   


วิธีทำ
-
เอาข่าแก่ที่ตากแห้งแล้ว ใส่ลงไปในถ้วยกาแฟ 4-5 แว่น
-
เอาน้ำร้อนเดือดใส่ลงไปค่อนถ้วย ปิดฝาถ้วย ทิ้งไว้ซักครู่หนึ่งแล้วค่อยดื่ม
-
ควรดื่ม 2-3 ถ้วยต่อวัน ก็ทำให้สบายท้องขึ้น ้
-
หรือจะใช้ ข่าสดก็ได้ 10-12 แว่น นำมาทุบให้แตก ต้มเอาน้ำดื่มก็ได


หมายเหตุ :คุณค่าทางยา : ช่วยขับลมได้อย่างดี ป็นการระบายลมออกมา จากลำใส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว
 
  แหล่งข้อมูล : www.spo.moph.go.th/dherb/sara/numsamunpri/num.htm

การทำน้ำวาดหางจระเข้

   
 ส่วนผสม 
 เนื้อว่านหางจระเข้ประมาณ 1 ถ้วยตวง (250 กรัม) 
 น้ำสะอาด 3 ถ้วยตวง 
 ใบเตยสด 2-3 ใบ 
 น้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ 
   
   


วิธีทำ
-
ให้เลือกใบขนาดใหญ่ที่อยู่ส่วนล่างๆ ของกอว่านสัก 1 ใบมาใช้ก่อน เพราะจะให้วุ้นมากกว่าใบเล็ก ปอกเปลือกสีเขียวออก ล้างให้หมดยาง แล้วนำลงภาชนะเคลือบหรือแก้วทนไฟ
-
เติมน้ำสะอาดประมาณ 3 ถ้วยตวง นำขึ้นต้มด้วยความร้อนปานกลาง
-
ระหว่างรอวุ้นสุก นำใบเตยสดประมาณ 2-3 ใบ มาซอยละเอียดแล้วคั้นด้วยน้ำอุ่นจัด ๆ ให้ได้น้ำใบเตยสดประมาณครึ่งถ้วยตวง
-
เมื่อวุ้นว่านหางจระเข้สุกแล้ว ยกลงตักเฉพาะวุ้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำลงเครื่องปั่น พร้อมน้ำใบเตยสด น้ำสุกครึ่งถ้วยตวง และน้ำแข็งเกล็ด ประมาณครึ่งถ้วยตวง อาจเติมน้ำเชื่อมสัก 1 ช้อนโต๊ะ
-
ปั่นสว่นผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เสิร์ฟทันที ว่านหางจระเข้มีน้ำยาง ที่ทำให้สตรีมีครรภ์ สตรีที่อยู่ระหว่างมีรอบเดือน ผู้ที่เป็นริดสีดวง เกิดอาการแพ้ได้


หมายเหตุ :ความโดดเด่นที่รู้กันทั่วไปของว่านหางจระเข้ก็คือ ว่านทรงคุณค่าชนิดนี้เป็นเสมือนโรงงานอุตสาหกรรมจากธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสารเคมีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะจากวุ้นใสๆ ที่อยู่ภายในใบอันยาวหนา ปลายแหลม ซึ่งเต็มไปด้วยสารอล็อคติน อโลอิโมดิน อโลซิน อโลอิน ไกลโคโปรตีน และโพลีซัคคาไรด์ ที่มีฤทธิ์เร่งการจับตัวของเลือดและเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์ร่างกาย ใช้ทาเพื่อสมานบาดแผลไฟไหม้ แผลที่เกิดจากความร้อน รังสีเอกซ์ รังสีจากสารกัมมันตรังสี น้ำร้อนลวก แมลงสัตว์กัดต่อย ฟกช้ำ หรือผิวหนังไหม้ที่เกิดจากถูกแดดเผา และยังมีสารบราดิไคนิเนส (Bradykininase) ที่ช่วยดูดพิษเพื่อลดการอักเสบของบาดแผลได้ดียิ่ง มีสารอโลอัลซิน ช่วยยับยั้งการสังเคราะห์ฮิสตามีน และส่วนรากมีฤทธิ์บรรเทา อาการทางเดินปัสสาวะอักเสบ ยางสีเหลืองจากเปลือก มีสารแอนทราควิโนน ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติ วุ้นจากว่านหางจระเข้ จะช่วยบำรุงร่างกาย บรรเทาความอ่อนเพลีย เนื่องจากพักผ่อนน้อย รวมไปถึงการบำบัดแผลเรื้อรัง และแผลในกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดี
 
  แหล่งข้อมูล : www.ku.ac.th/e-magazine - นิตยสารเกษตรศาสตร์ ฉบับที่ 52 ตุลาคม 2547 
 

การทำไอติม

 จะดีแค่ไหนถ้ามีไอศกรีมหวาน ๆ เย็น ๆ ติดตู้เย็นเอาไว้กินยามร่างกายอ่อนเพลียจากการทำงาน ถ้าซื้อกินก็ไม่อร่อยเท่าทำเอง จริง ๆ นะ

          อากาศร้อนขนาดนี้ จะมีอะไรดีกว่ากินไอศกรีมเย็น ๆ สักถ้วยให้ชื่นใจ แต่ไม่อยากจะออกพ้นหน้าบ้าน วันนี้กระปุกดอทคอมเลยนำสูตรการทำไอศกรีมง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้เครื่องมาฝากให้ทำกินเองกันที่บ้านเสียเลย 10 รสชาติ 10 แบบให้เลือกกันได้อย่างจุใจ พร้อมแล้วก็จดสูตรไปเลยจ้า
 


1. ไอศกรีมชาเขียว

          เริ่มต้นความเย็นชุ่มฉ่ำกันด้วยไอศกรีมชาเขียวสไตล์ญี่ปุ่นที่ใครจะไปรู้ว่าไม่ต้องมีเครื่องทำไอศกรีมก็สามารถทำได้ด้วย ถึงแม้เนื้อจะไม่เนียนละเอียดแต่ก็ช่วยให้คลายร้อนได้เพลิน ๆ แถมยังโปะถั่วแดงกวนลงไปด้วย เพลินล่ะ !

ส่วนผสม ไอศกรีมชาเขียว

          • นมข้นจืด 2+1/2 ถ้วย
          • เฮฟวี่ครีม 1/2 ถ้วย
          • ผงชาเขียวมัทฉะ 3 ช้อนโต๊ะ
          • ไข่แดง 2 ฟอง
          • น้ำตาลทรายละเอียด 1/2 ถ้วย
          • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
          • ถั่วแดงกวน (สำหรับเสิร์ฟ)

วิธีทำไอศกรีมชาเขียว

          1. ตีผสมนมข้นจืดและวิปปิ้งครีมให้เข้ากันในอ่างผสมด้วยตะกร้อมือ
          2. ใส่ผงชาเขียวมัทฉะลงไปคนผสมอีกครั้งให้เข้ากันดี พักไว้
          3. ตีผสมไข่แดงและน้ำตาลทรายให้เข้ากัน 
          4. เติมเกลือลงไปเล็กน้อยคนผสมให้เข้ากัน 
          5. เทส่วนผสมนมลงไปตีผสมให้เข้ากัน 
          6. เทส่วนผสมไอศกรีมลงในภาชนะ ปิดฝา นำเข้าแช่เย็นจนเริ่มแข็งตัว 
          7. นำออกมาใช้ส้อมขูดให้ทั่ว ปิดฝา จากนั้นก็นำเข้าแช่แข็งอีกทำแบบนี้สัก 2-3 ครั้ง 
          8. พอไอศกรีมแข็งตัวแล้วก็ตักเป็นลูกกลม ๆ ใส่ถ้วย โปะถั่วแดงลงไปตามชอบ พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++++++++

สูตรทำไอศกรีม

2. ไอศกรีมวานิลลา

          ไอศกรีมรสชาติพื้นฐานที่ใคร ๆ ก็เคยกิน ถ้าอย่างนั้นก็ลองลงมือทำไอศกรีมรสวานิลลาแบบง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เครื่องเก็บติดไว้ในตู้เย็นสักหน่อยเอง พออากาศร้อนจัด ๆ ก็หยิบออกจากตู้ตักเข้าปากก็เย็นฉ่ำชื่นใจได้ทุกเวลาแล้ว

ส่วนผสม ไอศกรีมวานิลลา

          • ไข่ไก่ 2 ฟอง
          • ไข่แดง 4 ฟอง
          • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
          • เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
          • ฝักวานิลลา 1 ฝัก
          • เฮฟวีครีม (Heavy Cream) 1 ถ้วย
          • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
          • กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

อุปกรณ์

          • หม้อสำหรับตุ๋น
          • อ่างน้ำผสมน้ำแข็ง

วิธีทำ ไอศกรีมวานิลลา

          • 1. เตรียมหม้อสำหรับตุ๋น และอ่างน้ำผสมน้ำแข็ง เตรียมไว้
          • 2. ใส่ไข่ไก่ ไข่แดง น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย เกลือป่น และขูดเมล็ดวานิลลาลงในหม้อตุ๋น พร้อมฝักวานิลลา ตุ๋นนานประมาณ 10 นาที (หมั่นตีผสมบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ส่วนผสมแยกชั้น) ตีจนส่วนผสมเริ่มเหนียวและเป็นฟอง (ถ้าจะให้ดี ใช้เทอร์โมมีเตอร์จุ่มลงไปวัดความร้อนประมาณ 160 องศาเซลเซียส) จากนั้นยกลงจากเตา วางลงในอ่างน้ำแข็งทันที แล้วตักเอาฝักวานิลลาออก พักไว้จนเย็น
          • 3. ตีเฮฟวี่ครีมจนขึ้นฟู ใส่น้ำตาลทราย  2 ช้อนโต๊ะ และกลิ่นวานิลลาลงไป ตีผสมจนขึ้นฟูอีกครั้ง
          • 4. นำส่วนผสมคัสตาร์ดออกจากอ่างน้ำแข็ง แบ่งใส่วิปปิ้งครีมครั้งละ 1/3 ส่วน คนผสมให้เข้ากันจนหมด จากนั้นเทใส่พิมพ์ ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำเข้าแช่แข็งอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ก่อนเสิร์ฟ

+++++++++++++++++++

สูตรทำไอศกรีม

3. ไอศกรีมพาร์เฟ่ต์กราโนลา

          ชวนสาว ๆ รักหุ่นทั้งหลายมาทำเมนูไอศกรีมพาร์เฟ่ต์กราโนลา สูตรไอศกรีมแท่งไม่ใช้เครื่องจับโยเกิร์ตมิกซ์กราโนลา เพิ่มคุณค่าจากผลไม้ เสิร์ฟเป็นแท่งเย็นฉ่ำ เก๋ที่สุดในสามโลกบอกเลย สูตรจาก คุณเบสท์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ส่วนผสม ไอศกรีมพาร์เฟ่ต์กราโนลา 

          • โยเกิร์ต 2 ถ้วย (ประมาณ 4 แท่ง)
          • ผลไม้ตามชอบ
          • กราโนล่า 60 กรัม (1 ถุง ทำได้ 4 แท่ง)
          • น้ำผึ้ง (ใช้นิดเดียวค่ะ)

          ป.ล. ผลไม้ใช้อะไรก็ได้นะคะ ผลไม้ไทย ๆ อย่างเงาะ ลำไย หรือสับปะรดก็ใช้ได้ค่ะ แต่เราอยากให้สีออกมาสวย ๆ กับเป็นคนชอบทานผลไม้เปรี้ยว ๆ เลยใช้แบบนี้ค่ะ

อุปกรณ์ 

          • พิมพ์ทำไอศกรีมแท่ง (ซื้อที่โลตัส 35 บาท)
          • ตู้เย็น

วิธีทำไอศกรีมพาร์เฟ่ต์กราโนลา

          1. ใส่โยเกิร์ตลงในแม่พิมพ์ ประมาณ 1 ใน 3 ของพิมพ์
          2. ใส่ผลไม้ลงไปตามใจชอบ (เคล็ดลับถ้าอยากให้เห็นสีสวย ๆ ต้องใส่ผลไม้ชิดด้านข้างค่ะ) จากนั้นใส่โยเกิร์ตลงไปจนเกือบเต็มแม่พิมพ์ เว้นที่ไว้ใส่กราโนลาด้านบน
          3. ใส่กราโนลารสที่ชอบลงไปให้เต็มพิมพ์
          4. ใส่น้ำผึ้งลงบนกราโนลาเล็กน้อย ปักไม้ไอศกรีมลงไปให้เรียบร้อย แช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
          5. เอาออกจากพิมพ์โดยเอาใส่ลงในกะละมังที่มีน้ำอุ่นแล้วค่อย ๆ แกะออกมา

++++++++++++++++++++

สูตรทำไอศกรีม

4. ไอศกรีมชาไทย


          ถ้าใครชอบกินชาเย็นหรือชาชักแบบเข้มข้นแต่รู้สึกว่ายังไม่ชื่นฉ่ำหัวใจพอ ต้องจับชาเย็นมาทำเป็นไอศกรีมชาเย็นแบบง่าย ๆ ตามสูตรที่เรานำมาฝากเลย ส่วนผสมแค่ 2 อย่าง แต่รับรองว่าเข้มข้น เด็ดโดนใจได้รสชาติแบบไทย ๆ ที่เราคุ้นเคย สูตรจาก คุณอ้อมกอดของความเหงา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ส่วนผสม ไอศกรีมชาไทย

          • น้ำชาเย็น 1+1/2 ถ้วย
          • วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย (หรือ Fresh Whipping Cream)

วิธีทำ ไอศกรีมชาไทย

          • 1. ต้มผงชากับน้ำ น้ำตาลทราย และใส่เกลือป่นลงไปเล็กน้อย (เพื่อคสวามกลมกล่อม) 

          เคล็บลับ : ใครอยากได้สีเข้มหรือสีอ่อนแค่ไหนก็แล้วแต่จะใส่ผงชาลงไป มากหรือน้อยแค่ไหน แต่เราชอบสีเข้ม ๆหน่อยสวยดี

          • 2. ยกลงกรองเอากากชาออกพักให้เย็นแล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็งให้พอเป็นเกล็ดน้ำแข็ง          • 3. นำส่วนผสมออกจากช่องแช่แข็ง ใส่ลงในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ตามด้วยวิปปิ้งครีม ปั่นจนเนียนแล้วเทใส่ลงในภาชนะ นำเข้าแช่แข็ง แล้วนำออกมาอีกครั้ง ปั่นประมาณ 2-3 รอบให้ได้เนื้อเนียน

++++++++++++++++++++

สูตรทำไอศกรีม

5. ไอศกรีมอัญชัน

          ถ้าเดินไปเจอกับดอกอัญชันริมรั้วละแวกบ้านแนะนำให้เด็ดมาสัก 1 กำมือแล้วมาทำไอศกรีมอัญชันสีพาสเทลม่วงอมน้ำเงินอ่อน ๆ ได้ความเป็นไทย ที่เชื่อว่าหลายคนต้องยังไม่เคยลองแน่ ๆ แถมวิธีทำก็ง่าย ๆ แบบนี้ อย่ารอช้าค่ะ คั้นน้ำอัญชันเตรียมไว้เลย สูตรจาก คุณอ้อมกอดของความเหงา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ส่วนผสม ไอศกรีมอัญชัน

          • ดอกอัญชันสดหรือแห้ง
          • น้ำ (สำหรับคั้นน้ำ)
          • น้ำตาลทราย (ตามชอบ)
          • เกลือ เล็กน้อย
          • วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย (สามารถเพิ่มวิปปิ้งครีมได้ จะได้เนื้อไอศกรีมที่มีความเข้มข้นขึ้นไปอีก)

วิธีทำ ไอศกรีมอัญชัน

          • 1. ต้มดอกอัญชันกับน้ำจนเดือด ใส่น้ำตาลทรายและเกลือลงไป รอจนเดือดอีกครั้ง (ชิมรสให้ออกหวานนิดนึงและสีเข้มมากน้อยก็ตามใจเลยค่ะ) ยกลงจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น จากนั้นกรองเอาเฉพาะน้ำ เทใส่ภาชนะ จากนั้นนำเข้าช่องแช่แข็งให้เริ่มจับตัวเป็นเกล็ดน้ำแข็ง
          • 2. นำเกล็ดน้ำแข็งอัญชันและวิปปิ้งครีมอย่างละ 1 ถ้วยใส่เครื่องปั่น ปั่นให้เข้ากัน (ใช้อัตราส่วน 1 : 1 หรือใครจะใส่วิปปิ้งครีมเพิ่มเพื่อให้เนื้อเนียนและเข้มข้นก็ได้) 
          • 3. เทส่วนผสมที่ปั่นแล้วใส่กล่องแล้วนำเข้าแช่แข็งจนเริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง จากนั้นนำออกมาปั่นอีกครั้ง เทใส่ภาชนะแล้วนำไปแช่จนถึงเวลารับประทาน
          • เคล็ดลับ : ถ้าอยากตักไอศกรีมแล้วละลายช้าและเป็นลูกสวย ให้นำที่จะตักไอศกรีมและถ้วยสำหรับใส่ไอศกรีมไปแช่ในช่องแข็ง และถ้าเป็นพวกถ้วยกระเบื้องหรือแก้วจะเก็บความเย็นดีมาก ไอศกรีมจะละลายช้า)

+++++++++++++++++++


สูตรทำไอศกรีม

6. ไอศกรีมแท่งชาเขียวถั่วแดง

          ลองมาดูทางฝั่งของไอศกรีมแท่งแบบง่าย ๆ กันบ้าง ลดสเกลความยากลงมาหน่อย เปิดประเดิมด้วยไอศกรีมแท่งชาเขียวเนื้อเข้มข้นหวานมัน แถมยังแอบซ่อนถั่วแดงกวนเอาไว้ด้านล่าง ได้อารมณ์เหมือนญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่สำคัญทำง่าย ๆ รีบไปขุดเอาพิมพ์ไอศกรีมแท่งมาล้างรอไว้ได้เลย สูตรจากเฟซบุ๊ก Rin Silpachai

ส่วนผสม ไอศกรีมแท่งชาเขียวถั่วแดง

          • ผงชาเขียวมัทฉะ 4 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำร้อน 3-4 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย (หรือน้ำตาลทรายแดง,น้ำผึ้ง) 3 ช้อนโต๊ะ
          • นมข้นหวาน 5 ช้อนโต๊ะ
          • เฮฟวี่ครีม (หรือนมสด,นมถั่วเหลือง) 350 มิลลิลิตร (ประมาณ 1+1/2 ถ้วย)
          • ถั่วแดงญี่ปุ่นชนิดหวาน 1/3 ถ้วย
          • พิมพ์ไอศกรีมแท่ง
          • ไม้ไอศกรีม (แช่น้ำทิ้งไว้ 15 นาที)

วิธีทำ ไอศกรีมแท่งชาเขียวถั่วแดง

          • 1. ใส่ผงชาเขียวลงในถ้วยผสม (ถ้วยที่มีปากเพื่อเทลงพิมพ์ได้ง่ายขึ้น) ตามด้วยน้ำร้อน คนผสมให้ผงชาเขียวละลายจนไม่เป็นเม็ด
          • 2. เติมน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้เข้ากันจนน้ำตาลทรายละลาย
          • 3. เติมนมข้นหวานลงไป คนผสมให้เข้ากัน
          • 4. เติมเฮฟวี่ครีมลงไป คนผสมให้เข้ากัน
          • 5. เทส่วนผสมลงพิมพ์ไอศกรีมจนเกือบเต็ม นำเข้าแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง
          • 6. พอไอศกรีมแข็งแล้วนำไอศกรีมออกจากช่องแข็ง ตักถั่วแดงใส่แล้วเสียบไม้ไอศกรีมลงไป นำไปแช่แข็งอีกครั้งประมาณ 5 ชั่วโมง แกะออกจากพิมพ์ (ถ้าแกะไม่ออกให้นำพิมพ์ไปผ่านน้ำอุ่นแล้วค่อย ๆ ดึงออก) พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++++++++



สูตรทำไอศกรีม

7. ไอศกรีมแท่งผลไม้สด

          ส่วนสาว ๆ ที่ไม่อยากกินไอศกรีมที่มีส่วนผสมของไขมันนมเนยให้ระคายหุ่นก็ต้องเจอนี่ ไอศกรีมแท่งผลไม้สด ตอบโจทย์ทั้งความสดชื่น ดับร้อน อร่อย ได้ประโยชน์ และที่สำคัญคือ แคลอรีต่ำมาก ๆ กัดคำเดียวเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ สูตรจาก คุณ MMW สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ส่วนผสม ไอศกรีมแท่งผลไม้สด

          • น้ำผลไม้ตามชอบ (สุตรนี้ใช้น้ำผลไม้แคลอรี่ต่ำ)
          • ผลไม้ตามชอบ เช่น แอปเปิล, กีวี, สตรอว์บอร์รี และบลูเบอร์รี
          • พิมพ์สำหรับทำไอศกรีม
          • ไม้ไอศกรีม

วิธีทำ ไอศกรีมแท่งผลไม้สด

          • 1. นำผลไม้มาหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำแล้วจัดผลไม้ใส่ลงในพิมพ์ไอศกรีมให้แน่น 
          • 2. เทน้ำผลไม้ลงไป เสียบไม้ไอศกรีมแล้วนำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 4-6 ชั่วโมง แกะออกจากพิมพ์ พร้อมรับประทาน 
++++++++++++++++++++


8. กรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส

          เชื่อว่าเพื่อน ๆ ต้องเคยกินน้ำฟักข้าวเพื่อสุขภาพกันมาแล้วเนอะ แต่ถ้าหากเหลือฟักข้าวอีกหลายลูกแต่ไม่รู้จะเอามาทำเมนูคลายร้อนอะไรดี ขอแนะนำกรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรสสูตรจากคุณ Rock Barista สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หวานเย็นสไตล์อิตาเลียน สูตรนี้ใส่เนื้อฟักข้าวผสมกับน้ำเสาวรส จับแช่แข็งจนเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ตักมากินคำโต ๆ เลยค่ะ เย็นเจี๊ยบชื่นใจ

ส่วนผสม กรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส

          • ฟักข้าวสุก
          • น้ำเสาวรส
          • น้ำตาลทรายป่น

วิธีทำกรานิต้าฟักข้าวผสมเสาวรส

          • 1. เริ่มจากการแยกเม็ดกับเนื้อฟักข้าวออกจากกัน ใช้ช้อนตักแล้วคว้านออกได้ทั้งหมด
          • 2. เทรวมกันแล้วนำไปปั่นเลย ใช้เครื่องปั่นอะไรก็ได้ เพราะเนื้อฟักข้าวจากผลสุกค่อนข้างเละอยู่แล้ว เราอาจจะนวดก่อนที่จะคว้านก็ได้ครับ จากนั้นก็นำไปต้มให้เดือด 1 ครั้ง
          • 3. หลังจากต้มเสร็จแล้ว เติมน้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อยแล้วก็เติมน้ำเสาวรสลงไป (ใช้อัตราส่วน ฟักข้าว 1 ลูก ต่อ น้ำเสาวรส 1 ลิตร สำหรับท่านที่ชอบทานเปรี้ยวไม่ต้องเติมน้ำตาลทรายก็ได้ แต่ผมว่าเติมเล็กน้อยจะได้รสที่กลมกล่อมกว่าครับ) เมื่อเติมน้ำเสาวรสแล้วก็นำใส่ภาชนะที่จะแช่เย็น
          • 4. นำไปแช่เย็นจนเริ่มเป็นเกล็ดน้ำแข็ง แต่ยังไม่ต้องแข็งมากแล้วนำออกมาคน (ยิ่งนำออกมาคนบ่อย เนื้อจะยิ่งเนียน ของผมคน 2 รอบ ก็พอได้อยู่ครับ เคยเห็นกระทู้ของพี่ ๆ เอาออกมาเข้าเครื่องปั่นอีกรอบถ้าทำอย่างนั้นน่าจะดีเลยครับ)
          • 5. พอได้ที่แล้วก็ถึงเวลาของความอร่อยชื่นใจรับลมร้อนแล้วครับ ตักใส่ภาชนะ พร้อมเสิร์ฟ

++++++++++++++++++++

สูตรทำไอศกรีม

9. ไอศกรีมกล้วยบวชชี

          ใครจะไปเชื่อว่ากล้วยบวชชีจะมาทำเป็นไอศกรีมได้ด้วย ขอบอกเลยว่า อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ คราวหน้าคราวหลังถ้าซื้อกล้วยบวชชีมาแล้วกินไม่หมด แนะนำให้จับมาทำไอศกรีมแท่งชิ้นจิ๋วเก๋ ๆ แบบนี้ดู เปลี่ยนขนมไทยบ้าน ๆ ให้กลายเป็นขนมอินเตอร์ ๆ รับรองว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน สูตรจากนิตยสารแม่บ้าน

ส่วนผสม ไอศกรีมกล้วยบวชชี

          • กะทิ (เข้มข้นปานกลาง) 1 ถ้วย
          • กล้วยน้ำว้า 100 กรัม (ต้มสุกหั่นเป็นชิ้น)
          • น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
          • เกลือป่นหยาบ 1/2 ช้อนชา
          • เนื้อมะพร้าวเผา (หั่นเป็นชิ้น) 50 กรัม
          • กล้วยน้ำสุกห่าม ต้มสุกหั่นแว่น (สำหรับใส่ในพิมพ์)
          • พิมพ์ไอศกรีมตามชอบ
          • ไม้เสียบไอศกรีม

วิธีทำ ไอศกรีมกล้วยบวชชี

          • 1. ใส่กะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ พอร้อน
          • 2. ใส่กล้วยน้ำว้าลงต้ม พอเดือดใส่น้ำตาลปี๊บและเกลือป่น ต้มต่อจนกล้วยน้ำว้านิ่ม
          • 3. ใส่เนื้อมะพร้าวเผา คนผสมพอเข้ากันดี ยกลงจากเตา
          • 4.ใส่กล้วยนน้ำว้าหั่นแว่น ลงในพิมพ์
          • 5. ตักส่วนผสมในข้อที่ 3 ลงในพิมพ์จนเต็ม จากนั้นเสียบไม้ไอศกรีมลงตรงกลาง นำเข้าแช่ในตู้เย็นช่องแช่แข็งประมาณ 1 คืน หรือจนแข็งตัว จัดเสิร์ฟ

++++++++++++++++++++
สูตรทำไอศกรีม

10. ไอศกรีมโยเกิร์ต

          ปิดท้ายด้วยเมนูไอศกรีมแท่งจิ๋ว ๆ น่ารัก ๆ ที่ทำง่าย ๆ สีสันสดใส หอมละมุนแต่แอบแฝงไปด้วยความเปรี้ยวให้ได้เข็ดฟันกันเบา ๆ แถมยังเอาใจสาว ๆ ที่ควบคุมน้ำหนัก เพราะเป็นโยเกิร์ตทั้งแท่ง ! สูตรจาก นิตยสารแม่บ้าน

ส่วนผสม ไอศกรีมโยเกิร์ต

          • โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 2 ถ้วย (ไขมันต่ำ)
          • โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รี 1/2 ถ้วย (ไขมันต่ำ)
          • สตรอว์เบอร์รี 100 กรัม
          • พิมพ์ไอศกรีม (หรือแก้วกระดาษ)
          • ไม้ไอศกรีม

วิธีทำ ไอศกรีมโยเกิร์ต

          • 1. หั่นครึ่งสตรอว์เบอร์รี วางลงในพิมพ์สำหรับทำไอศกรีม
          • 2. เทโยเกิร์ตรสธรรมชาติใส่ในพิมพ์ไอศกรีมประมาณ 3/4 พิมพ์ นำเข้าแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 30 นาที
          • 3. นำส่วนผสมออกจากตู้เย็นแล้วใส่โยเกิร์ตรสสตรอว์เบอร์รีทับลงไปด้านบน นำเข้าช่องแช่แข็งต่อจนแข็งตัว นำออกจากพิมพ์ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ จัดเสิร์ฟ

          อยากจะคลายร้อนกันด้วยไอศกรีมแบบไหน จะเป็นลูกหรือเป็นแท่งก็เลือกกันได้ตามใจชอบเลยจ้า ไม่เห็นต้องมีเครื่องทำไอศกรีมสักนิดก็ได้ไอศกรีมเย็นฉ่ำชื่นใจไว้ดับร้อนไม่ต้องง้อใครแล้ว