วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560

สถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี

1.น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี

ที่อยู่ : อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน จังหวัดกาญจนบุรี เดิมมีชื่อว่า น้ำตกสะด่องม่องลายมาจากชื่อลำธารต้นน้ำ น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงามเป็นอย่างมากทำให้ชาวไทยและชาวต่างชาติหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาชม โดยน้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกที่มีน้ำตลอดทั้งปีแต่จะมีน้ำน้อยในช่วงเดือนธันวาคม - เมษายน 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ความพิเศษของน้ำตกเอราวัณคือเป็นน้ำตกบนเทือกเขาหินปูน เมื่อสะท้อนแสงอาทิตย์จะทำให้น้ำมีสีฟ้าอมเขียว ตัวน้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง, ชั้นที่ 2 วังมัจฉา, ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก, ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ, ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง, ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา, ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ โดยบริเวณน้ำตกชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 4 จะมีปลาว่ายน้ำอยู่


2.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น

ที่อยู่ :  ภายในอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ถือเป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย จุดกำเนิดเกิดจากลำน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาทางด้านฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ไหลลงมารวมกันกลายเป็นลำห้วยแม่ขมิ้น  

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงามถึง 7 ชั้น ได้แก่ ชั้นที่ 1 ดงว่าน ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น ชั้นที่ 3 วังหน้าผา ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว ชั้นที่ 5 ไหลจนหลง ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ ชั้นที่ 7 ร่มเกล้า   แต่ชั้นที่น่าสนใจที่สุดคือ ชั้นที่ 4  เพราะชั้นนี้เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนเนื่องจากอยู่บนเทือกเขาที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเขื่อนศรีนครินทร์ได้อย่างชัดเจน


3.สะพานข้ามแม่น้ำแคว

ที่อยู่ :  ต.ท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลก ครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ประมาณ 61700 คนและกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟ 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

การสร้างสะพานทางรถไฟสายนี้เป็นไปด้วย ความยากลำบากเพราะความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดอาหาร ทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง


4.สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์คแอนด์แคมป์

ที่อยู่ : 40/2 หมู่5 ตำบลหนองกุ่ม อำเภอบ่อพลอย กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์คแอนด์แคมป์ เป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกของกาญจนบุรี ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสัตว์นานาชนิดเช่น เช่น ยีราฟ ช้าง ม้าลาย อูฐ เสือโคร่ง สิงโต เสือดาว หมีควาย ลามา นกกระจอกเทศ กวางชนิดต่างๆ ฯลฯ อย่างใกล้ชิด 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ไฮไลท์พิเศษที่หลายคนชื่นชอบคือ เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตสัตว์นานาชนิด นักท่องเที่ยวที่สามารถกอดคอยีราฟถ่ายรูป โดยการนั่งรถของทางซาฟารี แล้วยีราฟจะยื่นคอเข้ามาในรถ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินไปกับการให้อาหารและกอดเจ้ายีราฟได้อย่างใกล้ชิด และยังมีการโชว์อาทิ โชว์ช้าง, โชว์จระเข้ ป้อนนมลูกเสือโคร่ง เหมาะกับการพาเด็กๆ และครอบครัวไปท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 150 บาท, เด็ก 80 บาท


5.วัดถ้ำเสือ

ที่อยู่ :  ต.ม่วงชุม อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

วัดถ้ำเสือ เป็นวัดใหม่ที่สร้างขึ้น พศ.2515 โดยเจ้าอาวาสพระครูสิทธิวิมล ได้ธุดงค์มาพบเศษอิฐและซากเจดีย์เก่าในบริเวณนี้จึงได้บูรณะขึ้น วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขามีพุทธลักษณะที่สวยงามมาก และยังมีอุโบสถอัฏมุขเป็นลักษณะทรงไทยมีลวดลายสวยงามวิจิตรตระการตา 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ข้างๆ มีเจดีย์เกศแก้วมหาปราสาท ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินหรือใช้ลิฟท์ขึ้นไปชมวิวทะเลสาบและเขื่อนแม่กลอง  โดยสามารถเห็นได้แต่ไกล พระเจดีย์เกศแก้วปราสาท เป็นพระเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมสูง 9 ชั้น ภายนอกสวยงามด้วยหน้าต่างที่มีซุ้มประดับอยู่ด้านบน ภายในชั้นต่างๆประดิษฐานพระพุทธรูปอยู่โดยรอบ ส่วนบนสุดประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ


6.ช่องเขาขาด

ที่อยู่ : อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ช่องเขาขาด เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟสายมรณะ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยความยากลำบาก เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อนและหุบเหวลึกชัน เชลยศึกและกรรมกรรับจ้างต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดภูเขาหินด้วยมือ ซึ่งเป็นการทำงานที่ทารุณอย่างยิ่ง 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

เนื่องจากต้องปีนลงไปสกัดหิน ในช่องเขาที่บางช่วงสูงถึง 11 เมตร จนแทบไม่มีอากาศหายใจ ทั้งยังต้องทำงานท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าวของเดือนมีนาคม ในภาวะขาดแคลนน้ำและอาหาร บริเวณนี้จึงได้รับการขนานนามว่า "ช่องไฟนรก"


7.สะพานไม้อุตตมานุสรณ์ (สะพานมอญ)

ที่อยู่ :  อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

บริเวณสะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวทะเลสาบที่สวยงามสามารถมองเห็นลำห้วยสายต่างๆคือ ซองกาเลีย บีคลี่ และรันตีที่ไหลมารวมกันเป็นสามประสบ


8.จุดชมวิวป้อมปี่

ที่อยู่ :  อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทางไปสังขละบุรีประมาณ 2 กิโลเมตร อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

จุดชมวิวป้อมปี่ บริเวณโดยรอบของที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ถูกจัดให้เป็นลานแคมป์ปิ้ง พื้นที่อยู่ในเหลี่ยมเขา

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

 บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การพักแรมและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูนก เล่นน้ำ พายเรือ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจุดหนึ่ง


9.โบสถ์ใต้น้ำ วัดวังก์วิเวการาม

ที่อยู่ :  ตำบลสังขละบุรี อำเภอสังขละบุรี กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

วัดใต้น้ำ หรือ วัดวังก์วิเวการามเก่า จัดเป็นสถานที่โบราณสำคัญอีกที่หนึ่ง เดิมวัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าของหลวงพ่ออุตมะที่ชาวมอญร่วมกันสร้างขึ้น ต่อมาได้มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์เพื่อใช้ในการผลิตกระแสะไฟฟ้าทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจนท่วมตัวอำเภอเก่าทั้งหมู่บ้านรวมทั้งตัววัดด้วย จึงได้ย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาด้านฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อยในปัจจุบัน 

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

การมาชมวัดใต้น้ำจะทำได้เพียงล่องเรือไปในบริเวณใกล้กับโบสถ์ จึงควรมาในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำลด สามารถนั่งเรือไปจอดใกล้โบสถ์แล้วเดินเข้าไปภายในโบสถ์ได้เพื่อชมศิลปะแบบมอญ ภายในผนังโบสถ์ยังมีลวดลายศิลปะหลงเหลือให้เห็นอยู่เป็นลายซุ้มองค์พระพุทธรูปอยู่ตามผนัง แต่เดิมมีทั้งหมด 2,500 องค์ แต่ปัจจุบันเนื่องจากโดนกระแสน้ำเซาะทำให้เกิดความเสียหายหลุดล่วงหรือลอยไปกับกระแสน้ำบ้าง  


10.สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก

ที่อยู่ :  บ้านดอนรัก ต.บ้านเหนือ ด้านหลังสถานีรถไฟกาญจนบุรี  อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี

สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก หรือสุสานสหประชาชาติ ชาวบ้านเรียก "ป่าช้าฝรั่ง" สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ 


ที่เที่ยวกาญจนบุรี

บริเวณสุสานมีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6982 หลุม โดยเชลยศึก 300 คนจากจำนวนทั้งหมดคือผู้เสียชีวิตด้วยอหิวาตกโรคและฝังไว้ที่ค่ายนิเถะ ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิตก็ได้จากชื่อที่จารึกไว้บนหลุมเหล่านั้น

มาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีที่เดียวเรียกได้ว่าเที่ยวได้ครบทุกรส...แล้วเพื่อนๆ ละค่ะ ถูกใจกับสถานที่ท่องเที่ยวในกาญจนบุรี ที่เราเอามาแนะนำกันบ้างหรือเปล่า หากใครสนใจก็อย่าลืมชวนสมาชิกในครอบครัวไปเที่ยวในวันหยุดกันนะค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้องกับที่เที่ยวกาญจนบุรีค่าา

Keywords : เที่ยวกาญจนบุรี, ที่เที่ยวกาญจนบุรี, สถานที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี, สถานที่เที่ยวกาญจนบุรี, เที่ยวกาญจนบุรี 1 วัน, แหล่งท่องเที่ยวกาญจนบุรี, ท่องเที่ยวกาญจนบุรี, เที่ยวกาญ, ที่ท่องเที่ยวกาญจนบุรี, เที่ยวกาญจนบุรี pantip

การทำธุรกิจออนไลน์

สวัสดีค่ะเพื่อนๆดิฉันชื่อแป้งค่ะ
เป็นเจ้าของเว็บไซต์ ธุรกิจออนไลน์.ws แห่งนี้ค่ะ
แป้งเองเป็นคนนึงที่รักในการสร้างรายได้แบบ Passive Income และอยากมองหางานอะไรก็ได้ที่เราทำได้จากที่บ้าน และงานที่ทำไม่กี่ปีเสร็จแล้วหยุดทำได้ จะได้ไปใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ให้มีอิสระภาพทางด้านการเงิน เวลา และ Life Style โดยแท้จริง อยากไปไหนก็ไป อยากตื่นตอนไหนก็ได้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อโดยไม่ต้องกังวลอะไร ถ้ามีชีวิตแบบนี้ได้มันจะโคตรสุดยอดไปเลย!! ใช่ไหมคะเพื่อนๆ
และใน"ทุกๆวันนี้ แป้งก็สามารถมีชีวิตในแบบที่แป้งต้องการไปได้แล้วประมาณ 80% ค่ะ" เอาง่ายๆว่า แป้งไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร ทำธุรกิจตอนไหนก็ได้ที่มีคอมและเน็ต อยากไปไหนกับคนที่เรารักในวันที่คนอื่นเค้าทำงานก็ทำได้ค่ะ และนี่ก็คือชีวิตที่แป้งเลือก และมันก็เกิดขึ้นแล้วจริงๆ หากเพื่อนๆมีความต้องการคล้ายๆกันกับแป้ง นับว่าเราโชคดีมากที่มาพบเจอกันค่ะ
และทั้งหมดนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าแป้งไม่เริ่มมองหาอะไรให้ชีวิตซะที จาก "จุดเริ่มต้น" ที่แป้งมองหาธุรกิจที่ตอบโจทย์รูปแบบชีวิต "ทำที่บ้าน ไม่ต้องขาย ไม่ต้องตื๊อ ไม่ต้องชวน แต่เป็นการสร้างเครือข่ายจริงๆ" และเหมือนสวรรค์เป็นใจ ที่พาแป้งมาเจอกับ "ธุรกิจออนไลน์" ที่นี่ ที่สามารถสร้างรายได้ให้เราอย่างมั่นคงจริงๆ จากการทํางานผ่านเน็ตล้วนๆ โดยไม่ต้องออกจากบ้านเลยแม้แต่ก้าวเดียวจริงๆค่ะ
บอกได้คำเดียวค่ะว่า โดนใจสุดๆ
"ทำธุรกิจออนไลน์กับระบบที่นี่เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ในทุกสิ่งทุกอย่างที่แป้งค้นหามาตลอด"
เพราะรูปแบบการทำธุรกิจออนไลน์ "มีโมเดลธุรกิจที่มันง่ายกว่าและใช้เวลาในการ ศึกษาและเริ่มต้นที่รวดเร็ว" และที่สำคัญ "เป็นธุรกิจที่สามารถ ทำเงินออนไลน์ได้จริง ด้วย ระบบทํางานผ่านเน็ต 100% ที่ไม่ขายสินค้า, ไม่เดินทางอบรม, ไม่ชวนคนอีกต่างหาก และเป็นธุรกิจระยะยาวอีกด้วย" โดยที่ แป้งใช้แค่เพียง "คอมพิวเตอร์" และ "อินเตอร์เน็ต" เท่านั้น ในการ ทํางานผ่านเน็ต แป้งได้ทุ่มเทใช้เวลาช่วงแรกๆในการ Set ระบบ แล้วหลังจากนั้น ธุรกิจออนไลน์ของแป้งมันก็ทำเงินให้เองแบบ "Automatic Income" ออนไลน์ 24 ชม. แม้ยามที่เราหลับ! จากนั้นแป้งก็ปรับปรุง"ระบบ"มาตลอด จนรายได้ของแป้งก็เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ กลายมาเป็น "Passive Income" และยิ่งกว่านั้น ธุรกิจออนไลน์ นี้ก็ยังสามารถ "ขยายไปได้ทั่วโลก" กว่า 86 ประเทศ เพราะนี่คือธุรกิจออนไลน์ ที่ "ใช้เวลาช่วงหนึ่งในการหาเงินใช้ทั้งชีวิต ไม่ใช่ใช้เวลาทั้งชีวิตในการหาเงินใช้ไปวันๆ" สิ่งที่แป้งได้เรียนรู้คือ "ความสำเร็จเกิดจากการเรียนรู้และลงมือทำสม่ำเสมอ" เพราะแป้งเชื่อว่า..ศักยภาพของคนเรานั้นไร้ขีดจำกัด!

วิธีปลูกสลัด

   วิธีปลูกผักสลัดในกระถางลงดิน สำหรับปลูกผักสลัดกินเองที่บ้าน ด้วยการเพาะเมล็ด วิธีปลูกผักสลัดในกระถางง่าย ๆ จะใช้ทดลองปลูกผักสลัดขายก็ทำได้เช่นกัน
 
        สำหรับคนรักสุขภาพที่อยากมีผักสด ๆ กินที่บ้าน วันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอเอาใจด้วยวิธีปลูกผักสลัดในกระถางลงดิน ไว้ปลูกผักสลัดกินที่บ้าน 7 ชนิด ส่วนใครอยากทดลองปลูกผักสลัดขายก็สามารถทำได้ ด้วยวิธีปลูกผักสลัดในกระถางเป็นง่าย ๆ จากการเพาะเมล็ดลงดิน ใช้พื้นที่ไม่มากแต่ก็ปลูกผักไว้กินเองที่บ้านได้เหมือนกัน ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยว่ามีวิธีปลูกผักสลัดในกระถางลงดินอย่างไรบ้าง 

ภาพจาก saltandpepperthearth 
 
1. ผักกาดคอส (Cos Lettuce)

          หนึ่งในผักสลัดยอดนิยมของคนรักสุขภาพ ลักษณะลำต้นเป็นกอ มีทั้งใบเรียวยาวและใบกลมบาง ออกใบเรียงซ้อนสลับกันเป็นช่อ ปลูกโดยนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์มาเพาะในกระถางต้นกล้าที่มีดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี ผสมปุ๋ย และวัตถุอินทรีต่าง ๆ โดยฝังเมล็ดลงในดินให้ลึก 1/8 นิ้ว ลำต้นจะงอกขึ้นมาประมาณ 1 นิ้ว ภายใน 3-4 สัปดาห์ จากนั้นก็ทำการย้ายต้นกล้ามาปลูกในกระถางใหญ่ แต่ก่อนย้ายแนะนำให้ลดปริมาณน้ำและอุณหภูมิโดยรอบลงเล็กน้อยเป็นเวลา 3 วันก่อนย้ายลงกระถางใหญ่ เพื่อให้ต้นกล้านั้นสมบูรณ์แข็งแรง หลังย้ายเสร็จควรตั้งกระถางให้อยู่ในที่ที่มีแดดรำไร ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา อย่าปล่อยให้ดินแห้งจนเกินไป และบำรุงด้วยปุ๋ยไนโตรเจนผสมน้ำให้ผลผลิตงอกงาม หลังจากเพาะเมล็ดแล้วนับไปอีก 70-75 วัน ก็สามารถเก็บมากินได้

ภาพจาก highergroundveggies
 
2. ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce)
 
          ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด มีลักษณะเป็นหัว ออกใบเรียงซ้อนสลับกัน และมีเนื้อสัมผัสนุ่มนวล วิธีปลูกเริ่มจากเพาะเมล็ดในกระถางเพาะกล้าให้ต้นเจริญเติบโตแข็งแรงและมีความสูงประมาณ 4 นิ้ว ซึ่งในระหว่างที่เพาะควรตั้งกระถางไว้ในที่ร่ม หลังจากนั้นก็ย้ายมาปลูกในกระถางใบใหญ่ที่มีดินร่วนระบายน้ำได้ดีผสมกับปุ๋ยคอกและใบไม้  ตั้งกระถางให้อยู่ในที่ที่มีแดดส่องถึงหรือมีแดดรำไร ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มชื่นแต่อย่าแฉะจนมีน้ำขัง สามารถเก็บเกี่ยวผลิตได้ภายใน 65-80 วัน หลังเพาะเมล็ด
 
ภาพจาก Stacie Burke 

3. ผักกาดแก้ว (Iceberg Lettuce) crisphead
          แม้ว่าผักกาดแก้วจะเป็นผักสลัดเมืองหนาว แต่ถ้าเราดูแลเป็นอย่างดีก็จะงอกงามได้เหมือนกัน โดยนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์มาเพาะลงในถาดเพาะกล้า หลุมละประมาณ 2-3 เมล็ด ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มแต่อย่าแฉะ และตั้งถาดไว้ในที่ร่ม ต้นอ่อนจะเริ่มเจริญเติบโตขึ้นมาภายใน 5-10 วัน ตัดต้นอ่อนที่ไม่แข็งแรงทิ้งไป ให้เหลือแต่ต้นที่แข็งแรงที่สุดของแต่ละหลุม แล้วนำมาปลูกในกระถางใบใหญ่ใส่ดินร่วนผสมปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เศษใบไม้แห้ง และเศษอินทรีอื่น ๆ ตั้งกระถางอยู่ในที่ร่ม อย่าปล่อยให้ตากแดดมากไป ไม่เช่นนั้นใบจะไหม้เอาได้ ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่มชื่นอยู่ตลอดเวลา แต่ต้องไม่แฉะจนเกินไป หมั่นบำรุงด้วยปุ๋ยไนโตรเจนผสมน้ำเพื่อให้ผลผลิตงอกงาม เมื่อผักกาดมีขนาดหัวที่ใหญ่ หนา และใบขึ้นซ้อนแน่นเต็มที่ก็สามารถเก็บกินได้เลย

 
4. ผักกาดคอรัล (Red Leaf Lettuce)

          ผัดกาดเรดคอรัล มีลักษณะเป็นทรงพุ่ม ใบหยัก และมีสีน้ำตาลอมแดง เนื้อสัมผัสนุ่ม ส่วนวิธีการปลูกจะคล้ายกับการปลูกผักกาดคอส โดยการเพาะเมล็ดในกระถางหรือถาดเพาะกล้า ที่มีดินร่วนผสมเศษใบไม้และวัตถุอินทรีต่าง ๆ ต้นอ่อนจะเจริญเติบโตสูง 1 นิ้ว ภายใน 3-4 สัปดาห์ ก่อนย้ายกระถางอย่าลืมลดน้ำและอุณหภูมิโดยรอบเพื่อให้ต้นแข็งแรงซะก่อน แล้วค่อยย้ายมาปลูกในกระถางที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยคอก ใบไม้ หรือเศษอินทรี ตั้งกระถางเอาไว้ในที่ที่มีแดดรำไร ดูแลรดน้ำแบบให้ดินชุ่มชื่นและฉีดพ่นน้ำเพื่อลดอุณหภูมิโดยรอบ เลือกใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนปานกลางจะได้ไม่รุนแรงจนเกินไป หลังจากเพาะเมล็ดและนับไปอีก 45-55 วัน ก็ถึงเวลาเก็บผักมากินได้
 
ภาพจาก charlesdowding 

5. ชิโครรี (Chicory)
 
          ชิโครรี มีลักษณะลำต้นเรียวยาว ออกใบยาว ขอบใบหยับ และมีรสขมเล็กน้อย ปลูกโดยนำเมล็ดพันธุ์ที่สมบูรณ์มาฝังในกระถางเพาะกล้าใส่ดินร่วนผสมปุ๋ยคอกและวัตถุอินทรีต่าง ๆ ตั้งเอาไว้ในที่แดดรำไร ดูแลรดน้ำให้ดินชุ่ม รวมทั้งให้ปุ๋ยละลายน้ำทุก 2 สัปดาห์ ต้นอ่อนจะเจริญเติบโตสูงประมาณ 7-11 นิ้ว จากนั้นนำไปปลูกในกระถางใบใหญ่ที่มีดินร่วน ปุ๋ยคอก และอินทรีวัตถุอื่น ๆ  ดูแลรดน้ำตามปกติ หลังจากลงเมล็ดปลูกได้สัก 60-70 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

ภาพจาก marksvegplot 
 
6. เรดิชิโอ (Radicchio)

          เรดิชิโอ เป็นผักในตระกูลผักกาด มีลักษณะคล้ายหัวกะหล่ำ ออกใบสีม่วงอมแดง มีเส้นใบสีขาว วิธีปลูกให้นำเมล็ดมาเพาะต้นอ่อนในกระถางเพาะ ที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยและวัตถุอินทรีต่าง ๆ อย่าฝังเมล็ดให้ลึกจนเจอไป รดน้ำให้หน้าดินชุ่มชื่นอยู่เสมอ เมื่อต้นอ่อนงอกขึ้นมา 1 นิ้ว ให้ตัดต้นอ่อนที่ไม่แข็งแรงทิ้งไป ให้เหลือแต่ต้นที่แข็งแรงที่สุดไว้ แล้วย้ายลงมาปลูกในกระถางใหญ่ที่มีดินร่วนผสมปุ๋ยและวัตถุอินทรีเหมือนเดิม ตั้งกระถางในที่ที่มีแดดรำไร ดูแลรดน้ำอย่าปล่อยให้ดินแห้ง ให้ดินมีความชุ่มชื่นอยู่เสมอ หลังจากเพาะเมล็ดเรียบร้อยแล้ว ก็นับไปอีก 80-90 วัน จึงจะเก็บกินได้
 
ภาพจาก grow-it-organically

7. เรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค (Red Oak, Green Oak)
 
          เรดโอ๊คและกรีนโอ๊ค เป็นผักสลัดยอดนิยมอีกหนึ่งชนิด ที่มีทั้งใบสีแดงและใบสีเขียว ออกใบซ้อนกัน ขอบใบหยัก ลำต้นอวบสั้น และเนื้อสัมผัสนุ่ม สามารถเจริญเติบโตในดินที่มีค่าความเป็นกรดอยู่ที่ 6.0-6.5 หากจะปลูกให้นำเมล็ดที่สมบูรณ์มาปลูกลงในกระถางธรรมดา หรือจะแยกปลูกในกระถางเพาะกล้าก่อนก็ได้ ฝังเมล็ดลงในดินร่วนที่ผสมปุ๋ยและอินทรีย์ต่าง ๆ ให้ลึกประมาณ 4 นิ้ว กลบดินทับบาง ๆ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่มแต่อย่าแฉะ ตั้งในที่แดดรำไร เมื่อต้นอ่อนงอกสูง 1-2 นิ้ว ถ้าเลือกวิธีเพาะต้นกล้าก็สามารถย้ายมาปลูกในกระถางใหญ่ในตอนนี้ได้เลย แล้วตั้งกระถางให้ในที่ที่มีแดดส่องถึง หมั่นรดน้ำให้ดินชุ่มชื่น และให้สารอาหารแก่พืชด้วยปุ๋ยละลายน้ำ ผักสลัดชนิดนี้เจริญเติบโตเร็ว สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังจากเพาะเมล็ด ภายใน 10-14 วัน  

ขอขอบคุณข้อมูลจาก heirloom-organics, bonnieplants, harvesttotable, gardenersnet, wikihow และ diynetwork